ภูมิหลัง ของ การลอบสังหารฌอเวอแนล มออีซ

การเลือกตั้ง

มออีซได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากมีแชล มาร์เตลี[5] ซึ่งตามรัฐธรรมนูญไม่มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกสมัยใน พ.ศ. 2558 จากผลอย่างเป็นทางการนั้น มออีซได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 33 ในรอบแรก ซึ่งถือว่ามากกว่าผู้สมัครคนอื่น ๆ แต่ยังไม่เพียงพอที่จะชนะขาดลอยจึงต้องมีการเลือกตั้งรอบที่สอง ผลการเลือกตั้งนี้ถูกฌูด เซแล็สแต็ง ผู้ได้รับคะแนนเสียงมากเป็นอันดับที่สองและผู้สมัครคนอื่น ๆ โต้แย้ง และผู้สนับสนุนพวกเขาได้ออกมาประท้วง[6] การเลือกตั้งรอบตัดเชือกถูกเลื่อนออกไปหลายครั้ง ทำให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงขึ้นอีก[7] และผลการเลือกตั้งก็ถูกยกเลิกไปในที่สุด[5] เมื่อวาระการดำรงตำแหน่งของมาร์เตลีสิ้นสุดลง สภานิติบัญญัติได้แต่งตั้งฌ็อสแลร์ม พรีแวร์ เป็นประธานาธิบดีชั่วคราวก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2559[8] ในการเลือกตั้งครั้งนี้มออีซได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 56 จากการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือว่ามากพอที่จะหลีกเลี่ยงการเลือกตั้งรอบตัดเชือกได้[5] เขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560[9]

ความวุ่นวายทางการเมือง

ในวาระดำรงตำแหน่งของมออีซ ความไม่สงบทางการเมืองและความรุนแรงไม่ใช่เรื่องแปลก การประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรงก็เกิดขึ้นหลายครั้ง ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของมออีซเป็นที่โต้แย้ง ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์รัฐธรรมนูญ โดยปกติประธานาธิบดีมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละห้าปี และมออีซอ้างสิทธิ์ในการบริหารประเทศจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นเวลาห้าปีหลังจากเริ่มดำรงตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านอ้างว่าวาระของมออีซสิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นเวลาห้าปีหลังจากผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ พ.ศ. 2558 จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในสถานการณ์ปกติ เกิดการประท้วงอย่างกว้างขวางเพื่อเรียกร้องให้มออีซลาออก และฝ่ายค้านเสนอชื่อผู้พิพากษาโฌแซ็ฟ เมแซน ฌ็อง-หลุยส์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีชั่วคราวในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564[10][11][12] ในขณะที่มออีซได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและองค์การนานารัฐอเมริกันให้ดำรงตำแหน่งต่อไปเป็นปีที่ห้า[2] การเลือกตั้งสภานิติบัญญัติที่กำหนดไว้ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2562 รวมถึงการลงประชามติว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกเลื่อนออกไปจนถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2564 ส่งผลให้มออีซปกครองโดยใช้คำสั่งพิเศษนอกเหนือจากกฎหมายปกติ[13][14][2] มออีซอ้างว่าเขาได้ทำลายแผนการก่อรัฐประหารซึ่งพยายามจะสังหารเขาและโค่นล้มรัฐบาลในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 23 คน[15] เขาแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี 7 คนตลอดช่วงเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี คนสุดท้ายในจำนวนนี้คืออาเรียล อ็องรี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 แต่ยังไม่ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในขณะเกิดเหตุโจมตี[13][16][9]

แหล่งที่มา

WikiPedia: การลอบสังหารฌอเวอแนล มออีซ http://haitiantimes.com/2021/07/07/line-of-success... http://www.washingtonpost.com/world/the_americas/h... //www.worldcat.org/issn/0013-0613 //www.worldcat.org/issn/0190-8286 https://www.pagina12.com.ar/353137-la-cancilleria-... https://www.cbc.ca/news/politics/haiti-assassinati... https://apnews.com/article/joe-biden-caribbean-hai... https://www.bbc.com/news/world-latin-america-36128... https://www.bbc.com/news/world-latin-america-38140... https://www.bbc.com/news/world-latin-america-55975...